Diamond Flow Outlet ออกแบบตามหลักวิศวกรรม เน้นความเรียบง่ายรูปทรงและความลาดเอียงช่วยเพิ่มความเร็วในการระบายน้ำ
เปิดช่องระบายน้ำให้กว้างที่สุด ไม่มีแผ่น FIN มาขวางกั้นทางน้ำไหล ปรับการไหลของน้ำเป็นแบบ Linear Flow รอบหัวระบายน้ำฝน
ท่อ HDPE มีคุณสมบัติ น้ำหนักเบา เหนียว มีความยืดหยุ่น ท่อมีหลายขนาด ทนแรงดันได้สูงกว่าท่อ U-PVC เพราะ U-PVC เป็นท่อที่มีคุณสมบัติแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น เมื่อรับแรงดันมากๆจะทำให้เกิดการระเบิด ฉะนั้นท่อ HDPE จึงเหมาะกับระบบระบายน้ำฝนที่มีแรงดันภายในท่อ หรือก็คือระบบ Siphonic (ไซโฟนิค)
การที่ใช้ท่อ HDPE จะใช้วิธีต่อท่อโดยวิธีเชื่อมชน ทำให้ท่อหลอมติดเป็นเนื้อเดียวกัน รอยต่อมีความแข็งแรง ไม่รั่วซึม ซึ่งท่อและข้อแบบของ U-PVC ใช้การต่อแบบทางกาวแล้วสอดซึ่งมีโอกาสรั่วซึมมากกว่า
ข้อต่อแบบ Molded Fittings
ทำหน้าที่ป้องกันอากาศลงไปในท่อ ถูกออกแบบมาให้ควบคุมทิศทางการไหลของน้ำลงไปในท่อแบบเส้นตรง มีความโปร่งโล่ง สามารถระบายขยะขนาดเล็กไม่ให้อุดตันที่หัวระบายน้ำได้
ท่อ HDPE มีคุณสมบัติ น้ำหนักเบา เหนียว มีความยืดหยุ่น ท่อมีหลายขนาด ทนแรงดันได้สูงกว่าท่อ U-PVC เพราะ U-PVC เป็นท่อที่มีคุณสมบัติแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น เมื่อรับแรงดันมากๆจะทำให้เกิดการระเบิด ฉะนั้นท่อ HDPE จึงเหมาะกับระบบระบายน้ำฝนที่มีแรงดันภายในท่อ หรือก็คือระบบ Siphonic (ไซโฟนิค)
การที่ใช้ท่อ HDPE จะใช้วิธีต่อท่อโดยวิธีเชื่อมชน ทำให้ท่อหลอมติดเป็นเนื้อเดียวกัน รอยต่อมีความแข็งแรง ไม่รั่วซึม ซึ่งท่อและข้อแบบของ U-PVC ใช้การต่อแบบทางกาวแล้วสอดซึ่งมีโอกาสรั่วซึมมากกว่า
ข้อต่อแบบ Molded Fittings
ทำหน้าที่ป้องกันอากาศลงไปในท่อ ถูกออกแบบมาให้ควบคุมทิศทางการไหลของน้ำลงไปในท่อแบบเส้นตรง มีความโปร่งโล่ง สามารถระบายขยะขนาดเล็กไม่ให้อุดตันที่หัวระบายน้ำได้
ท่อ HDPE มีคุณสมบัติ น้ำหนักเบา เหนียว มีความยืดหยุ่น ท่อมีหลายขนาด ทนแรงดันได้สูงกว่าท่อ U-PVC เพราะ U-PVC เป็นท่อที่มีคุณสมบัติแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น เมื่อรับแรงดันมากๆจะทำให้เกิดการระเบิด ฉะนั้นท่อ HDPE จึงเหมาะกับระบบระบายน้ำฝนที่มีแรงดันภายในท่อ หรือก็คือระบบ Siphonic (ไซโฟนิค)
การที่ใช้ท่อ HDPE จะใช้วิธีต่อท่อโดยวิธีเชื่อมชน ทำให้ท่อหลอมติดเป็นเนื้อเดียวกัน รอยต่อมีความแข็งแรง ไม่รั่วซึม ซึ่งท่อและข้อแบบของ U-PVC ใช้การต่อแบบทางกาวแล้วสอดซึ่งมีโอกาสรั่วซึมมากกว่า
ข้อต่อแบบ Molded Fittings